West Highland White Terrier หรือ Westie (ชื่อเล่นที่นิยมเรียกสุนัขพันธุ์นี้) เดิมมีชื่อเรียกว่า Roseneath Terrier หรือ Poltalloch Terrier มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ Poltalloch สก๊อตแลนด์ เป็นสุนัขพันธุ์เก่าแก่นับร้อยปีแต่เพิ่งมีผู้นิยมและนำออกโชว์เมื่อราวต้นศตวรรษที่ 18 นี้เอง
หลักฐานความเก่าแก่เท่าที่สืบสาวไปได้ไกลที่สุดคือบันทึกของ ผู้พันมัลคอล์ม แห่ง Poltalloch ในปี ค.ศ.1916 เขียนไว้ว่าพ่อและปู่ของเขาเคยเลี้ยงหมา Westie จึงมีการคาดเดากันว่าต้นตระกูลของ Westie สืบสาวยาวไกลไปได้ถึงสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 1 เลยทีเดียว
Westie ออกโชว์ตัวครั้งแรกที่งานแสดงและประกวดสุนัข "Cruft" ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ.1907 ในปีถัดมาได้ลงทะเบียนกับ American Kennel Club ในชื่อ Roseneath Terrier หลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น West Highland White Terrier อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1909
Westie เป็นเหมือนสุนัขเทอร์เรียที่มาจากสก๊อตแลนด์พันธุ์อื่น ๆ กล่าวคือตัวเล็กแต่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว เวลาอยู่นอกบ้านจะเป็นนักล่าที่เก่งกล้า แคล่วคล่องว่องไว วิ่งเร็ว และฉลาดเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อกลับบ้านจะเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีนิสัยร่าเริงสนุกสนาน
สาเหตุที่ทำให้ Westie เป็นสุนัขที่น่าเลี้ยงก็เพราะว่ามันเป็นสุนัขที่อดทน ชอบเล่นผจญภัยแบบออกแรงมาก ๆ ไม่ต้องดูแลประคบประหงมมาก ไม่ต้องเสียเวลาตกแต่งขนมากมายนักเพราะไว้ขนอย่างตามธรรมชาติก็น่าดูและมีเอกลักษณ์อยู่แล้ว แต่บางคนอาจจะดึงขนออกบ้างบางส่วนเพื่อให้และดูแปลกตา กระนั้นในการประกวดก็ยังนิยมให้มีขนเต็มร่างกายอยู่ดี ขนชั้นนอกหยาบแข็ง ควรตัดเล็มตามความเหมาะสมและควรทำความสะอาดด้วยวิธีใช้น้ำยาเช็ดดีกว่าจะอาบน้ำแบบสุนัขทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้มีขนาดเล็ก ชอบความสนุกสนาน ร่างกายมีความสมดุล แข็งแรง มีการนำเสนอและอวดตัวเองได้ค่อนข้างดี ไม่หวงตัวมาก มีโครงสร้างร่างกายที่ดี แข็งแรง มีอกที่ลึกและซี่โครงดีมีหลังตรง และลำตัวด้านหลังเต็มไปด้วบพลังจากกล้ามเนื้อของขาร่วมกับการแสดงออกของสุนัข ทำให้เพิ่มระดับความแข็งแรงและความคล่องแคล่ว ความยาวของขนประมาณ 2 นิ้ว เป็นขนสีขาวค่อนข้างแข็ง แต่ขนชั้นในนิ่ม ขนที่ยาวกว่าจะอยู่บริเวณด้านหลังและด้านข้าง ควรมีการเล็มขนให้สั้นในบริเวณคอและขนบริเวณไหล่ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือขนบริเวณรอบคอด้านบนต้องปล่อยไว้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวโดยแผ่เป็นรูปวงกลมรอบๆใบหน้า

ขนาด : ในตัวผู้ขนาดไม่ควรเกิน 11 นิ้ว เมื่อวัดจากไหล่ ในตัวเมียไม่ควรเกิน 10 นิ้ว ถ้าผิดไปจากนี้เล็กน้อยยอมรับได้ สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขขนาดกะทัดรัด ด้วยสัดส่วนและสมดุลที่ดี ลำตัวต้องระหว่างตะโหนกถึงหางจะสั้นกว่าความสูงเล็กน้อย มีขาที่สั้นแต่กระดูกเจริญดี แข็งแรง
ศีรษะ : มีลักษณะกลมเมื่อมองจากด้านหน้า มีสัดส่วนที่พอเหมาะกับร่างกาย แววตาที่อยากรู้อยากเห็น ชอบค้นคว้า ทะเล้น นัยน์ตาตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีขนาดปานกลาง รูปทรงอัลมอนด์ สีน้ำตาลเข้ม ตาค่อนข้างลึก ตาคมและมีแววเฉลียวฉลาด มองจากด้านล่างมีขนคิ้วที่หนา ขอบตาดำ
หู : ใบหูเล็ก ตั้งตรงเสมอ ตั้งห่างกันอยู่ด้านบนของขอบนอกของกะโหลก ปลายใบหูค่อนข้างแหลม หูต้องไม่ตก ขนที่ใบหูต้องได้รับการตัดและเล็มอยู่เสมอ สุนัขต้องขยับใบหูได้อย่างอิสระ
กะโหลก : มีความกว้างกว่าด้านยาวเล็กน้อย แต่ไม่แบนตรงบริเวณส่วนบนสุด มียอดเล็กน้อยระหว่างใบหู แล้วลาดลงมาบริเวณนัยน์ตา มีจุดสต๊อบที่ชัดเจน มีคิ้วที่หนา
ปาก : ไม่แหลม สั้นกว่าส่วนกะโหลก เต็มไปด้วยพละกำลังแล้วลาดลงมาสู่ปลายจมูก ซึ่งใหญ่และสีดำ ขากรรไกรได้ระดับและแข็งแรง ริมฝีปากต้องเป็นสีดำ
ลำตัว : กะทัดรัดได้สัดส่วนดี อกลึกอย่างน้อยลงไปถึงข้อศอกสุนัข คอเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและลาดลงไปยังไหล่ได้ดี ความยาวของลำคอต้องได้สัดส่วนของสุนัข ส่วนบนของลำตัวเรียบและได้ระดับทั้งขณะที่ยืนและวิ่งหรือเดิน
หาง : ต้องสั้น ได้สัดส่วน ลักษณะคล้ายแครอท ขณะยืนต้องสูงไม่เกินกะโหลก ปกคลุมไปด้วยขนที่แข็ง ต้องตรงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หางชี้ชันแต่ต้องไม่แตะหลัง ต้องไม่ตัดหาง
อุ้งเท้า : อุ้งเท้าหลังเล็กกว่าเท้าหน้า มีอุ้งเท้าหนา อาจมีการตัดนิ้วติ่ง
ขน : มีความสำคัญมาก ซึ่งนานๆครั้งจะพบว่าสุนัขมีขนที่สมบูรณ์แบบ ขนต้องเป็น 2 ชั้น เพื่อให้ศรีษะได้รูปต้องมีการดึงขนทิ้ง เพื่อให้ได้ใบหน้าที่กลม ขนชั้นนอกแข็ง ชี้ตรง สีขาว มีความยาวประมาณ 2 นิ้ว ขณะที่ขนบริเวณและคอจะสั้นกว่า อาจมีการตัดแต่งขนเพื่อให้ได้รูปทรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ จะมีขนที่ยาวบริเวณตำแหน่ง และขา ขนที่ดีคือสีขาว แข็ง ตรง ขนชั้นในนิ่ม
สีขน : ต้องเป็นมีขาว ตามชื่อสุนัข
การเดิน : เป็นอิสระ เดินตรงและเลี้ยวกลับไปมาง่าย มีอิสระและพลังขับเคลื่อนที่ดี
อารมณ์ : ทะเล้น สดใส ร่าเริง เป็นมิตร กล้าหาญ เชื่อมั่นในตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น